รีวิวซีรีส์ The Lord of the Rings แหวนแห่งอำนาจ
รีวิวซีรีส์ The Lord of the Rings เรื่องย่อ
เรามา ดูหนังฟรี และ มันเป็นซีรี่ย์ที่มีเนื้อหาเกิดก่อน หนัง เดอะฮ็อปบิท กับ ลอร์ดออฟเดอะริงส์ ผลงานของ J.R.R. Tolkien มันเป็นพันปีมาแล้ว Middle-earth ที่ทุกคนคุ้นหูกัน มันคือช่วงเวลาที่พลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ได้ถูกหลอมขึ้นมา หลากอาณาจักรที่ผ่านทั้งรุ่งเรืองและตกต่ำ
มันคือบททดสอบฮีโร่ ที่ยังไม่มีใครรู้ จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ที่หวนคืน ความมืดมนันธการที่เข้าปกคลุม ซีรีส์ที่จะพาทุกคนไปพบกับตัวละครใหม่ๆ และอีกหลายชื่อที่คุ้นเคยหลังสงครามครั้งใหญ่ ผู้คนมากมายล้วนคิดว่าพลังชั่วร้ายแห่งจอมมารได้หมดสิ้นไปแล้ว ทว่ายังมีคนที่คิดเห็นแตกต่าง
กาลาเดรียล (Morfydd Clark)เขาเป็นเอลฟ์ที่ผูกพันธ์ในการคนหาเศษของจอมมาร หลังฟินร็อดพี่ชายของนางสละชีพไล่ล่าเซารอน ตอนนี้นางเหมือนรับภารกิจต่อจากพี่ชายนาง แม้ทุกคนไม่เห็นด้วยตอนนี้ มิดเดิลเอิร์ธได้พบเหตุประหลาด หลายสิ่งหลายอย่างบังเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ดูหนังออนไลน์ ไม่มีโฆษณา
ซีรีส์ The Lord of the Rings แหวนแห่งอำนาจ เรื่องนี้มันจะพาทุกท่านไปในดินแดนต่างๆ ดินแดนแสนสงบของเหล่าฮอบบิท อาณาจักรในป่าอันยิ่งใหญ่เหล่าเอลฟ์ ไปจนถึงดินแดนสุดหรูหราของเหล่าคนแคระ เรื่องราวต่างๆ ก่อนการกำเนิดของ ‘แหวนแห่งอำนาจ’จอมมารที่อยากได้ดินแดนนี้ ความมืดมนอนันธการกำลังจะหวนคืนสู่มิดเดิลเอิร์ธอีกครา
รีวิวซีรีส์ The Lord of the Rings แหวนแห่งอำนาจ
รีวิวซีรีย์ เรื่องนี้ด้วยความที่สตูดิโอไม่ได้ลิขสิทธิ์มาทั้งหมด แต่ได้มาเป็นบางเล่มที่มีเนื้อหาในภาคผนวกเพียงไม่กี่หน้า ทำงานให้ต้องแต่งเรื่องขึ้นใหม่เพื่อสร้างเป็นซีรีส์ แหวนแห่งอำนาจ ยาวหลายตอน ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุให้ ‘แหวนแห่งอำนาจ’ อาจมีเนื้อหาบางอย่างที่ไม่ตรงกับที่แฟนหนังสือของ J.R.R. Tolkien ล่วงรู้มา เพราะฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจอะไรหากจะมีคนไม่ชอบซีรีส์เรื่องนี้อย่างหนาหู
รีวิวซีรี่ย์ต่างชาติ น่าดู ในตอนแรกๆ ซีรีย์ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ มันเล่าเรื่องแบบรวดเร็ว ว่าเอลฟ์ยังอาศัยอยู่ภายใต้แสงแรกของต้นทวีปพฤกษา เมื่อมอร์กอธทำลายต้นไม้ ก็ได้ตามไปไล่ล่าแก้แค้น และยังเล่าเรื่องสงครามที่ใช้เวลารบห้าร้อยปี แม้มอร์กอธพ่ายแพ้ แต่มันยังมีเซารอนที่หวังยึดครองมิดเดิลเอิร์ธ มันจึงซุ่มซ่อนกำลัง และยังมี กาลาเดรียลที่ยังคงค้นหาติดตามร่องรอยของมัน
สำหรับคนที่ไม่ได้ติดตามอ่านนิยายอย่างใกล้ชิดก็อาจจะไม่ได้รู้สึกขัดหรือตะขิดตะขวงใจสักเท่าไหร่ในเรื่องความตรงหรือไม่ตรงของเนื้อหา แต่คงจะพอรู้สึกได้ว่า เรื่องราวที่ซีรีส์เรื่องนี้ดำเนินอยู่นั้น มันดูเชื่องช้าเกินไปหน่อย อาจรู้สึกได้ว่าทีมสร้างค่อนข้างใช้เวลาปูเรื่องนานเกินไป
สามตอนแรกของซีรีส์แทบไม่มีคอนฟลิกต์ใดเกิดขึ้น เหมือนเป็นการเล่าปูพื้นไปเรื่อยๆให้คนดูได้รู้จักกับอาณาจักรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น พวกเอลฟ์ พวกออร์ค พวกฮอบบิท กับคนแคระ และมนุษย์ และจะมีตัวร้ายที่เกิดขึ้นมาขื่อ อะดาร์ มันเป็นผู้นำของเหล่าออร์ค
กาลาเดรียลได้เดินทางร่วมฮัลบรันด์ (Charlie Vickers) มาถึงที่ นูเมนอร์มันผ่านมาก็ตอนที่ 4-5 แล้ว มันดูชักช้าไม่ไปไหนและซีรีย์ยังเป็นบทพูดน่าเบื่ออีก ใครที่อยากเห็นการต่อสู้แอ็กชันก็ต้องอดทนกันหน่อยนะ แถมตัดไปกับการเดินทางของพวกฮอบบิทที่มันจะเป็น ปริศนาของยักษ์ลึกลับผู้นั้นที่ยังไม่ถูกเปิดเผยเสียทีนั่นเอง
The Lord of the Rings ละเอียดละออเหลือเกิน
สิ่งที่คนดูอย่างเราจะเห็นเด่นชัดจากซีรีส์เรื่องนี้ก็คือ งานออกแบบฉากที่อลังการงานสร้างมากๆ สมกับทุนสร้างที่มหาศาลอยู่ ไม่ว่าาจะเป็นสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่ของเกาะนูเมนอร์ อาณาจักรที่ค่อนข้างรุ่งเรืองแถมยังร่ำรวยด้วยเทคโนโลยี ไล่ไปถึงทวีปพฤกษาแห่งวาลินอร์
ฮาร์ฟุตอยู่อาศัยในดินแดนอันเขียวขจี ลินดอร์น นั้นเป็นอาณาจักรของเหล่าเอลฟ์ที่มีต้นไม้สีทองอร่ามตา และรูปปั้นที่เป็นอนุสรณ์ อาณาจักรเอลฟ์อีกแห่งอย่างเอเรกิออน อาณาจักรคาซัดดูมหรือมอเรียของเหล่าคนแคระทั้งหมดแทรกไว้ด้วยภาพของแผนที่ ทุกอย่างดูละเอียดละออ มองเห็นถึงความตั้งใจจะทำมาเพื่อกำนัลแด่แฟนของโทลคีนโดยเฉพาะ
ฟังดูเหมือนจะไม่มีมนุษย์ แต่เรื่องนี้ก็เล่าถึง เพราะมนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่สำคัญสำหรับเรื่องราว พวกเขาเคยเข้าร่วมกับมอร์กอธมาก่อน จะไม่มีกล่าวถึงได้ยังไง เซาธ์แลนด์คือดินแดนของพวกเขา แค่อาจจะดูโทรมๆ หน่อยเท่านั้นเอง
บางคาแรคเตอร์ที่กลายเป็นที่ถกเถียง
ถ้าเราดู เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของ ปีเตอร์ แจ็คสัน ได้ทำและสร้างจากนิยายโทลคีนโดยตรง มันจะไม่พบคนที่มีสีผิวสีอื่นปะปน แต่ในซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น พวกคนแคระ พวกเอลฟ์ พวกมนุษย์ หรือแม้แต่พวกฮอบบิท มันจะมีคนผิวดำหรือผิวสีปะปนอยู่ อย่างในซีรีส์เรื่องนี้
พวกเอลฟ์นั้นมียศหรือ ฐานะที่สฝุงกว่าพวกมนุษย์ เพราะว่ามนุษยืมันดูว่ามีจิตใตที่ไม่บริสุทธิ์ มักทำการที่ทำให้เขม่นไม่ชอบกัน มีตัวละครชื่อ อารอนเดียร์ (Ismael Cruz Cordova) เป็นเอลฟ์ผิวสี พบรักต่างเผ่าพันธุ์กับมนุษย์ชื่อ บรอนวิน (Nazanin Boniadi)
จุดที่แฟนนิยายของโทลคีนรู้สึกไม่พอใจและมองว่าแตกต่างจากสิ่งที่เคยถูกบอกเล่าในนิยายมาเกินไป ก็เห็นจะเห็นคาแรกเตอร์ของเหล่าเอลฟ์ เผ่าพันธุ์ที่มีอายุยืนยาวและไม่เคยแก่ แต่ในเรื่องก็จะพบว่า เคเลบริมบอร์ (Charles Edwards) กลับใช้คนมีอายุมาแสดง
กาลาเดรียลกับเอลรอนด์ (Robert Aramayo) เหมือนถูกจับให้มาเป็นคู่กัน นอกเหนือจากนี้ ก็ยังมีเรื่องคาแรกเตอร์ของกาลาเดรียลที่ค่อนข้างหุนหันเมื่อเทียบกับอายุ อะไรแบบนี้เป็นต้น จึงไม่น่าแปลกที่จะมีบทวิจารณ์ ซีรีส์ ‘แหวนแห่งอำนาจ’ มากอยู่สักหน่อย
สำหรับตัวผมเองแล้ว ไม่ได้เป็นแฟนนิยายอย่างจริงจังและไม่ได้มีปัญหากับการเลือกคนผิวมาเล่น แต่ความรู้สึกในระหว่างรับชมซีรีส์ความยาว 8 ตอนเรื่องนี้ คือ ใช้เวลาปูเรื่องนาน แม้เข้าใจว่าต้องเล่าสลับหลายอาณาจักร แต่บางไทม์ไลน์ก็ดู ‘มีอะไร’ ให้เล่าน้อยเกินไปอยู่ดี ขณะที่เดินเรื่องก็ใช้บทสนทนาที่เยอะเกิน ทำให้ฉากแอ็กชันน้อยไม่พอ ยังมีคอนฟลิกต์ในระหว่างการเล่าน้อย (หรือบางช่วงไม่มีเลย) ทำให้ความสนุกในการรับชมค่อนข้างฝืดเคือง
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
จากเคยเป็นภาพยนตร์ไตรภาคชื่อดังอย่าง The Lord of the Rings ที่เล่าเรื่องของโฟรโด สู่ไตรภาคที่ย้อนกลับไปเล่าเรื่องของบิลโบอย่าง ‘The Hobbit’ ปีนี้ คงถึงเวลาต้องย้อนกลับไปอีกครั้งในแบบฉบับซีรีส์ ‘The Lord of the Rings: The Rings of Power’ หรือชื่อไทย เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ แหวนแห่งอำนาจ’ ที่ฉายให้ชมกันแบบสตรีมมิ่งทาง Amazon Prime Video
ชื่อซีรีส์ The Lord of the Rings: The Rings of Power / เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์: แหวนแห่งอำนาจ
ผู้สร้าง Patrick McKay, John D. Payne
นักแสดง Morfydd Clark, Markella Kavenagh, Robert Aramayo, Ismael Cruz Cordova, Nazanin Boniadi
แนว/ประเภท Action, Adventure, Drama, Fantasy
จำนวนตอน ซีซัน 1: 8 ตอน ช่องทางรับชม Amazon Prime Video
เริ่มออกอากาศ 2 กันยายน 2022 ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ Amazon Studios, Harper Collins Publishers, New Line Cinema
เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์: แหวนแห่งอำนาจ
พล็อตและบท – 6.4 การแสดง – 5.8
การดำเนินเรื่อง – 5.4 เพลงและดนตรีประกอบ – 7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน – 7.6
