ทวนความจำ และรีวิว Stranger thing ซีซั่น1-3ก่อนไปดูซีซั่น4

สเตนเจอร์ ติงส์ 1-3

สวัสดีครับวันนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องของ ซีรีย์เกาหลี แต่เราจะมาพูดถึง ซีรีย์ต่างชาติ กันบ้าง วันนี้เราจะมาสรุปเนื้อเรื่อง Stranger thing Season 1 จนถึง Season 3 เพื่อช่วยเตือนความจำก่อนที่ทุกคนนั้นจะไปดู สเตนเจอร์ ติงส์ ซีซั่น 4 เราเชื่อว่าหลายๆคนนั้นอาจจะลืมเนื้อเรื่องในบางส่วนไปแล้วบ้าง เราถึงจะมา เล่าสั้นๆแบบย่อๆให้ทุกคนได้อ่าน จะได้ไม่ต้องสลับไปสลับมาให้งง เอาล่ะครับมาเริ่มกันเลย

 

สรุปเนื้อเรื่อง Stranger things เรื่องราวใน Season 1

เอาล่ะครับเรามาเริ่มกันเลย โดยเรื่องราวของ Stranger thing season 1 ได้เริ่มขึ้นในคริสตศักราช 1983 ที่เมืองฮอกกิ้น ณ รัฐอินเดียน่า โดยจุดเริ่มต้นนั้นเกิดจากการหายตัวไปของ วิวไบเออร์ นั่นจึงทำให้เราจะได้รู้ว่า มันต้องมีเรื่องราวไม่ชอบมาพากลที่มันกำลังจะเกิดขึ้นในเมือง ไม่ว่าจะเป็นการทดลองตลาดมิติที่คู่ขนาน โดยเรียกว่า Upside Down ที่มีสัตว์ประหลาดเดโมโกกอนหน้าตาสุดแสนจะสยอง และเด็กผู้หญิงที่มีพลังจิต

โดยที่วิวนั้น หายตัวไปในตอนกลางคืน กลางดึกของคืนหนึ่ง ในระหว่างที่เขานั้นกำลังจะขี่จักรยานเพื่อเดินทางกลับบ้าน ส่วนในอีกฟากหนึ่งของเมืองนั้น ก็เหมือนจะมีห้องทดลองแปลกๆที่น่าสงสัย และมีตัวประหลาดอะไรบางอย่างหนีออกมา

ไมค์ดัสติน และลูคัส ได้ไปพบกับเด็กหญิงประหลาด พวกเขาพาเธอกลับมาที่บ้านของไมค์ และเรียกเธอสั้นๆว่า แอล ตัวเองเป็นชื่อย่อมาจาก Eleven หรือตัวเลข เลข 11 และพวกเขานั้นได้ถามถึงเรื่องราว แต่ก็ดูเหมือนว่า เด็กผู้หญิงที่ชื่อแอล จะรู้ว่าตัววิวนั้นอยู่ที่ไหน และได้เริ่มเล่าให้พวกเขาฟัง ดีครับเพราะว่ามันมีโลกคู่ขนานครับที่เรียกว่า Upside Down โดยที่มันมีสัตว์ประหลาดหน้าตาน่ากลัวที่ชื่อเดโมกอร์กอน อยู่ในที่แห่งนั้น และโดยหลังจากการหายไปของ วิวไม่นาน เพื่อนของแนนซี่ก็หายตัวไปด้วยโดยเขานั้นมีชื่อว่า บาบาร่า

ตัวบิวนั้นได้พยายามหาทางติดต่อกับจอยซ์ ทางโทรศัพท์มือถือ แต่นั่นมันก็ไม่ได้ผล จอยซ์ และได้พยายามหาวิธีติดต่อกันอีกทางหนึ่ง คือการติดต่อการผ่านไฟคริสต์มาส ที่ติดอยู่บนผนังบ้าน ทำให้ตัวเขานั้นได้พบเบาะแส ที่เกี่ยวข้องกับโลกคู่ขนาน เพราะว่า มีปีศาจ เดโมกอร์กอน ได้ออกมาจากกำแพง ส่วนทางด้านเด็กๆนั้น ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าวิวติดอยู่ในโลกUpside Down ที่มีประตูทางเข้าอยู่ตั้งหลายทาง ซึ่งขนาดนั้น โจนาธานและแนนซี่ ได้เริ่มรวมตัวกัน โอนเงินเรียบร้อยเพื่อตามหาบาบาร่า และได้เข้าไปใน upside Down โดยการผ่านทางต้นไม้ต้นหนึ่ง

Stranger thing 1

ช่วงกลางเรื่องของ Stranger thing ในซีซั่น 1 

ฮอปเปอร์ เองก็กำลังจะสืบสวนเรื่องของห้องทดลองที่แปลกประหลาดอยู่พอดีด้วย เพราะห้องทดลองนั้น สามารถทำพังการหายตัวไปของ วิวด้วยร่างกายปลอม หลังจากนั้นจึงได้เบาะแสว่า ห้องทดลองเคยลักพาตัวเด็กคนหนึ่ง ที่เธอนั้นมีพลังจิต เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ของเธอในการทำสงครามรัสเซีย แต่พลังจิตของเธอนั้นดันทำให้ประตูมิติสู่ upside Down ได้เกิดเปิดขึ้นในห้องทดลอง

โดยที่คนของห้องทดลองนั้นได้ออกตามหา แอล แต่ทว่ายังไม่เจอร่องรอย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกคนได้มารวมตัวกัน และใช้พื้นที่ของโรงเรียนเพื่อสร้างเครื่องมือ เพื่อให้ แอล นั้น สามารถใช้พลังงานจิตเพื่อตามหา บาบาร่าและวิว แล้วได้พบว่า บาบาร่านั้นเสียชีวิตแล้ว ส่วนตัวของบิวนั้นยังคงซ่อนตัวอยู่ คนที่สัญญาณนั้นจะหายไป ต่อมา โจนาธานและแนนซี่ สตีฟ เขาได้เผชิญกับ ปีศาจเดโมกอร์กอน สามารถหนีเอาตัวเองรอดมาได้

จอย และ ฮอปเปอร์ ได้ทำการบุกเข้าไปที่ห้องทดลอง แต่ก็ถูกคนที่อยู่ในห้องทดลองนั้นสามารถจับตัวไว้ได้ ฮอปเปอร์ จึงเลือกที่จะพยายามบอกที่อยู่ของแอล และยอมแลกกับการได้เข้าไปในห้อง ที่มีประตูมิติUpside Down คนของห้องทดลองนั้นจึงตามหาตัว แอล จนได้พบ และเจ้าปีศาจ เดโมกอร์กอน ก็ได้ปรากฏกาย ขึ้นที่โรงเรียน L นั้นจึงได้สละตัวเองเพื่อที่จะดึงปีศาจ เดโมกอร์กอน กลับไปที่มิติที่มันจากมา ส่วนจอย และ ฮอบเปอร์ ได้พบกับ วิว แล้วในซีซั่นแรกนั้นก็สามารถช่วยเขามาได้ในที่สุดแต่ความรู้สึกนั้นเหมือนว่าวิวนั้นจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากๆ

Stranger thing 1

 

ทวนความจำเนื้อเรื่อง สเตนเจอร์ ติง ซีซั่น 2 ปีศาจ mind flayer

เอาล่ะครับต่อมาเราจะมาทวงความจำใน สเตนเจอร์ ติงส์ ซีซั่น 2 กันบ้างนะครับ โดยเรื่องราวใน Season 2 นั้น ปีศาจ เดโมกอร์กอน จะโดนถูกมาแทนที่ด้วย Mind Flayer ที่มาสิงสู่ร่างกายของวิว และพยายามที่จะสร้าง เดโมด็อก ที่ เปรียบเสมือนกับลูกๆของพวกมันออกมา เพื่อโจมตีคนที่อยู่ในเมือง โดยครั้งนี้ทุกคนนั้นต้องพยายามไขปริศนา และหยุดยั้ง mind flayerที่มาทำการสิ่งร่างของวิว ให้ได้

โดยเริ่มต้นที่เมืองฮอกกินส์ กำลังที่จะเตรียมตัวจัดงานฮาโลวีน แม็กซ์ เด็กสาวจากต่างเมือง ได้ย้ายบ้านเข้ามาพร้อมกับพี่ชายที่ชื่อบิลลี่ จึงเกิดความสนใจให้กับเหล่าเด็กๆทั้งหลาย ส่วนตัวจอยนั้น ไม่มีแฟนใหม่ที่ชื่อ บ๊อบ ที่สามารถเข้ากับวิวได้อย่างดี แต่ทว่าเหมือนทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น ทันใดนั้นวิวก็เห็นภาพจากมิติในภาคแรกเหมือนเดิม ส่วน แอล นั้น เธอยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันเพราะว่า ได้ฮอปเปอร์ช่วยเอาไว้ เขาที่ซ่อนตัว แอล ไว้ในกระท่อม โดยที่ไม่ให้ออกไปไหนเลย แล้วเขานั้นพยายามที่จะทำหน้าที่ของคนเป็นพ่ออย่างเต็มที่

และแล้ว เรื่องราวมันแปลกประหลาดมันก็ได้เริ่มขึ้น เมื่อของฮอปเปอร์ ได้มีการรับรายงานว่า มีโรคระบาดที่อยู่ในฟักทอง ทำให้ฟักทองนั้นเน่าเปื่อยไปทั่วทั้งเมืองอย่างน่าตกใจ ส่วน ดัสติน เองก็ได้ไปพบกับเจ้าสัตว์ประหลาดตัวเล็กที่ที่มันอยู่ในถังขยะ เขาจึงตัดสินใจเก็บมาเลี้ยง และตั้งชื่อให้มันว่า ดาร์ตาญัง และวิวนั้นก็พยายามที่จะต่อสู้กับภาพหลอนของตัวเอง แต่กลับถูกปีศาจ mind flayer  ได้เข้าสิงร่าง

และวิวนั้น จึงเปลี่ยนเป็นคนละคน ฮอปเปอร์ และ จอย จึงช่วยกันที่จะไขความลับ ว่าวิวนั้น ต้องการที่จะสื่ออะไรด้วยการที่เขาวาดรูป และจนได้พบว่ามี รากของอะไรบางอย่างใช้อยู่ใต้เมือง ฮอว์กินส์ บ็อบจึงไขปริศนาที่สงสัยได้ว่ารูปที่วิว วาดนั้น มันคือ Map ของเมือง ฮอว์กินส์ ส่วนทางด้านของแนนซี่ที่พยายามจะบอกว่าความจริง ของ บาบาร่า กับครอบครัว ก็ได้โดนล็อคห้องทดลองนั้นจับตัวไปกับโจนาธาน แต่แนนซี่เองได้อัดเสียงตอนเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเอาไว้ได้ เพื่อที่จะนำไปบอกกับนักสืบอย่างเมอเรย์

Stranger thing 2

เนื้อเรื่อง สเตนเจอร์ ติง เริ่มเข้มข้นมากขึ้นในช่วงท้ายของ ซีซั่น 2

ฮอปเปอร์รู้ความจริงว่า แอล นั้นได้แอบออกไปจากโรงเรียน นั่นถึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขานั้นทะเลาะกันเราจึงได้รู้ความจริงว่าเธอนั้นมีแม่ เธอเลยหนีออกจากบ้านเพื่อที่จะไปตามหาคุณแม่ของเธอ และแล้วก็พบว่าแม่ของเธอนั้น อยู่ในสถานะที่ไม่พร้อมจะพูดอะไรได้อีกแล้ว แล้วหลังจากนั้นอีกเธอก็ได้พบกับเด็กสาวที่ชื่อกาลี เด็กสาวที่มีพลังพิเศษคล้ายๆกับของเธอ กาลี จึงสอนการใช้พลังด้วยวิธีที่ถูกต้อง แล้วชวนเธอเข้ากลุ่ม แต่แอลนั้นก็รู้สึกว่า ที่ตรงนี้มันไม่ใช่ที่ของเธอที่เธอควรอยู่เธอจึงตัดสินใจที่จะเดินทางกลับไป และแล้วเรื่องราวก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีกขั้น

เมื่อฮอปเปอร์เจอประตูมิติที่นำทางไปสู่ upside Down ที่อยู่ใต้สวนฟักทอง และได้ติดอยู่ในมิตินั้น ส่วนสัตว์ประหลาด ดาร์ตาญัง ที่ดัดติน เก็บมาจากถังขยะ ที่เลี้ยงเอาไว้นั้นเริ่มดุร้ายหลังจากที่โตขึ้นทำให้ ดัสตินร่วมมือกับสตีฟ เพื่อที่จะตามหา สัตว์เลี้ยงที่เขาเก็บมา ที่โตมานั้นกลายร่างเป็น เดโมด็อก และได้หนีออกไป ซึ่งเขากลัวว่ามันจะทำอันตราย พวกเด็กๆนั้นจึงตัดสินใจที่จะบอกเรื่องนี้ กับแม็กซ์ ถึงความรักของเมือง ฮอว์กินส์ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเขาจึงรวมตัวและร่วมมือกันเป็นทีมที่ใหญ่ขึ้นเพื่อหยุดยั้งเราปีศาจ เดโมด็อก

ทำให้บล็อกกับจอย และรวมถึงวิว ได้ลงไปที่นิติของ upside Down เพื่อนตามหาคอปเปอร์ แต่แล้วก็เจอกับคนจากห้องทดลอง ที่กำลังเผารากประหลาดด้วยไฟ และนั่นจึงทำให้ได้รู้ความจริงว่า รากประหลาดนั้นเชื่อมต่อกับตัว วิว เอาไว้ ถ้าเราจะทำลายมันมันอาจจะทำให้ วิว นั้นมีอาการบาดเจ็บไปด้วยนั่นเอง

ในขณะที่ ฮอปเปอร์ จอยซ์ และ วิว รวมถึง บ็อบกำลังอยู่ในห้องทดลอง  เดโมด็อก ก็หลุดออกและเรื่องที่จะโจมตีพวกนั้น จึงทำให้บ็อบนั้นต้องยอมเสียสละตัวเองเพื่อที่จะช่วยชีวิต วิล จอยซ์ และ ฮอปเปอร์ออกไปให้ได้ แล้วเมื่อทุกคนได้พบกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลที่ค้นพบกันมาได้ ก็ได้ทราบว่าทางที่จะกู้เมืองกลับมานั้น มีทางเดียวก็คือการปิดประตูมิติลง

แต่แล้ว เดโมด็อก มันก็ตามทุกคนจนเจอ แต่ในขณะที่กำลังเดือดร้อนแบบถึงขั้นสุด แอลสามารถกลับมาช่วยได้อย่างท่วงทัน น่าจะทำให้เขานั้นตัดสินใจแบ่งหน้าที่กัน โจนาธานกับแนนซี่ และรวมถึงจอย จะพยายามที่จะไล่ Mind Flayer ออกจากร่างของวิว ด้วยการใช้ความรู้ความร้อน และ แอล กับ ฮอปเปอร์ จะเข้าไปทำการปิดประตูที่อยู่ในห้องแลป  ส่วนอีก 4 คน อย่าง ดัสติน ลูคัส สตีฟ และ แม็กซ์ จะทำหน้าที่ล่อพวก เดโมด็อก ให้ออกไปไกลจากทีมที่จะไปปิดประตูมิติ

และเราทุกคนก็ทำได้สำเร็จความสงบสุขของพวกเขาจึงกลับมาอีกครั้ง แอลได้กลับมาใช้ชีวิตแบบเก่าเป็นเด็กสาวที่ปกติ แบบไม่ต้องคอยหลบซ่อน ทุกคนได้สนุกสนานไปกับงานเต้นรำของโรงเรียน แต่ถึงแม้ว่า mind flayer นั้นจะออกจากร่างของวิวไปแล้ว แต่เราก็ยังคงรู้สึกได้ว่ามันยังคงต้องมองเมืองฮอว์กิ้นอยู่อย่างไม่ไปไหน ไปติดตาม สเตนเจอร์ติงส์ ซีซั่น 3 กันต่อเลย

 

เนื้อเรื่อง Stranger thing ในซีซั่น 3 ช่วงเวลาหลังจากงานเต้นรำ 1 ปี

เอาล่ะครับตอนนี้ก็มาถึง สเตนเจอร์ ติงส์ ซีซั่น 3 กันแล้วเป็นยังไงกันบ้าง คงจะจำเนื้อเรื่องในซีซั่น 1 และ Season 2 กันได้บ้างแล้วนะครับ โดย Season นี้จะเกิดขึ้นหลังจากช่วงงานเต้นรำได้ 1 ปี กลุ่มเด็กวัยรุ่นที่เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่และเป็นวัยทำงานกันแล้ว ส่วนเด็กๆนั้นก็เริ่มแตกเนื้อหนุ่มเนื้อสาวกันแล้ว โดยที่เรื่องราวในซีซั่นนี้นั้นจะเน้นไปที่ ความสัมพันธ์ของตัวละครในทุกวัย แต่อย่างว่ามันก็ยังคงมีเรื่องที่ลึกลับอยู่ เมื่อห้างสตาร์คอต ที่สุดแสนจะอลังการงานสร้างได้มาเริ่มเปิดในเมือง แต่ถ้าว่าภายในห้างนั้นมีความลับอะไรบางอย่างที่หลบซ่อนอยู่ “มันเป็นเรื่องที่น่าสงสัยใช่ไหมล่ะ”

กลุ่มเด็กๆเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่เป็นวัยรุ่นและได้เริ่มมีความรักกันแล้ว ทั้งไมค์กับแอล แล้วก็ ลูคัสกับแม็กซ์ แล้วพวกเด็กๆวัยรุ่นมันต้องเริ่มเข้าสู่ชีวิตในวัยทำงาน แนนซี่ กับ โจนาธาน เข้าสู่งานที่บริษัทหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่งด้วยกัน

และแล้ว เรื่องราวอันแปลกประหลาดก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อ ดัสติน กลับมาจากที่ไปค่ายวิทยาศาสตร์มาพร้อมกับเครื่องรับสัญญาณวิทยุ ที่สามารถติดต่อกับซูซี่ ที่เป็นแฟนสาวของเขา “แต่ใครจะไปเชื่อว่า ดัสดิน นั้นมีแฟนจริงๆล่ะ” ในขณะที่พยายามติดต่อกับซูซี่นั้น ดัสติน ก็ได้ยินเสียงแปลกประหลาด ที่เป็นเหมือนประสาทรัสเซียออกมาจากเครื่องวิทยุ

ดัสตินจึงตัดสินใจบอกเรื่องที่ได้ยินภาษารัสเซียที่เขาได้ยินมา ให้กับสตรีทที่ทำงานอยู่ในร้านไอศครีมของห้างสตาร์คอต ที่มีเด็กสาวที่ชื่อ โรบิ้น ได้ทำงานอยู่ด้วยกัน พวกเขาจึงได้ช่วยกันไขปริศนารหัสภาษารัสเซียนั้น และได้พบข้อมูลว่ามันเป็นการส่งสัญญาณรับของทหารรัสเซีย ที่บอกทางไปยังโกดังของห้าง ดัสติน โรบิ้น ได้ เอริก้า ที่นี่ความสัมพันธ์เป็นน้องสาวของลูคัส เดี๋ยวเข้ามาร่วมทีมในการหาเบาะแสเบื้องหลังของห้างสตาร์คอร์ท โดยที่พวกเขานั้นแอบเข้าไปในโกดัง ไม่ได้พบความจริงว่ามันมีฐานทัพอยู่ข้างในนั้นจริงๆ

สเตนเจอร์ ติงส์ ซีซั่น 3

ความซับซ้อนในแบบของ Stranger Thing ในซีซั่น 3 ได้เริ่มขึ้น

ตามเดิมของ Stranger Things season 3 เรื่องราวมันก็คงต้องซับซ้อนกันไปอีก เมื่อบิลลี่น้ำประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในตอนกลางคืนที่เมือง เมื่อลงมาดูรถของเขานั้นก็พบกับเมื่อกันแปลกประหลาดที่หน้าขยะแขยง ก่อนที่ตัวเขานั้นจะเปลี่ยนไปกลายเป็นอีกคนเลย เขาดูก้าวร้าวขึ้นและดูไม่มีชีวิตเหมือนคนเก่า ส่วนนั้นซี่กับโจนาธานนั้นก็ได้พบกับโลกที่ระบาดขึ้นในหนู ที่ทำให้หนูตัวเล็กๆนั้นมีอาการก้าวร้าวและระเบิดกลายเป็นเมือกที่น่าขยะแขยงอีก ต่อไปก็คือด้านของจอย ได้พบว่ามีแม่เหล็กในร้านที่เธอทำงานอยู่ มันพิมพ์แปลกไป มันดูเหมือนจะดูดูดดำดิ่งเข้าไปสู่พื้นโลก

จอยได้พบว่าปรากฏการณ์ที่แม่เหล็กนั้นเกิดตลาดขึ้นคงเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์อะไรบางอย่างที่อยู่ในห้องทดลองแน่ๆ แล้วหลังจากนั้นทิ้งจะมีความจริงของห้างชะตาคอร์ด ว่าการสร้างห้างมีขึ้นมามันเป็นแค่ฉากบังหน้าเท่านั้น แต่สิ่งลึกลับที่อยู่ในห้างนี้จริงๆคือ ฐานทัพของทหารรัสเซียต่างหากล่ะ

แต่ไม่พอเท่านั้น นอกจาก ฮอปเปอร์กับจอยเจอห้องทดลองของฝั่งทหารรัสเซีย ซึ่งช่วงที่เขาหนีจากการไล่ล่ามานั้น พวกเขา ได้พา อเล็กซี่ ที่เป็นชาวรัสเซียออกมาจากห้องทดลองนั้นด้วย ซึ่ง อเล็กซี่ เอง บอกกับพวกเขาทั้งสองว่า พวกทหารรัสเซียนั้นกำลังพยายามที่จะหาทางเปิดประตูไปสู่ Upside Down ในโกดังใต้ห้างสตาร์คอร์ต

สเตนเจอร์ ติงส์ ซีซั่น 3

เรื่องราว สเตนเจอร์ ติงส์ ซีซั่น 3 หลังจาก ที่รู้ว่าใต้ห้างสตาร์คอร์ตมีอะไร

แนนซี่และโจทาทานได้เริ่มสื่อข่าวเบาะแสความลับของโรคระบาดในหนูจนได้เจอกับคุณนาย ดริสครอลล์ ที่พอจะรับรู้และทราบอะไรบ้าง แต่พวกเขานั้นก็ได้ถูกไล่ออกจากบริษัทที่ทำงาน เพราะว่าหัวหน้าของพวกเขานั้นคิดว่าเรื่องนี้อาจจะทำให้คุณนาย ดริสคอลล์ นั้นอาจจะต้องเดือดร้อน โจนาธานกับแนนซี่ ได้มีปัญหาทะเลาะกัน จนแนนซี่นั้น เลือกที่จะตัดสินใจสืบเรื่องราวลึกลับที่ต่อด้วยตัวของเขาเอง ขึ้นเขาได้รู้ความจริงว่าโลกที่หวานนั้นติดต่อไปสู่คุณนาย ดริสคอลล์ คุณทำให้เธอมีอาการเหมือนวิวในครั้งแรกที่เขาถูกปีศาจเข้าสิง

แม็กซ์ และ แอลพยายามหาเบาะแสเกี่ยวกับบิลลี่ที่นิสัยของเขาเปลี่ยนไปเป็นคนที่ก้าวร้าวกว่าปกติ แล้วจากเบาะแสที่เขาได้มาได้นั้นวิวคิดว่า mind Flayer จะต้องอยู่ในร่างของบิลลี่แน่นอน ทั้งสองจึงหลอกล่อให้เขานั้นไปอยู่ที่ห้องซาวน่าเพื่อจะไล่มันออกไปเหมือนที่เคยทำตอนที่เคยทำในครั้งก่อนแต่ทว่าความผิดปกติของครั้งนี้คือมันดันไม่ได้ผล

“จะเอายังไงต่อกันล่ะทีนี้” ทันใดนั้นบิลลี่ก็ทดลองออกห้องมาและได้หลบหนีไปกบดานในที่ซ่อนของตัวเอง กับความแย่คือที่ซ่อมของบิลลี่นั้นเต็มไปด้วยชาวเมือง ฮอว์กินส์ ที่ถูกเข้าสิง

ส่วนทางด้านของแนนซี่และโจนาธานได้เริ่มปรับความเข้าใจกันและตัดสินใจที่จะไปหาเบาะแสที่โรงพยาบาลเพิ่มเติม ยังซวยได้อีกเพราะทั้งคู่นั้นถูกโจมตีโดยชาวเมืองที่ถูกเข้าสิง แอลได้สู้กับ mind flayer รวมถึงบิลลี่ จนเขานั้นได้รับบาดเจ็บที่ขา แล้วตอนนี้เขาเสียพลังพิเศษไปในภายหลังอีกด้วย แต่มันก็ทำให้เขาได้รู้อะไรบางอย่างว่าไอ้ปีศาจตัวนี้มันต้องการที่จะฆ่าเธอ เพื่อที่จะทำการล้างแค้นเพราะว่าเธอนั้นไปปิดประตูมิติ upside Down

แต่หลังจากนั้น ทุกคนไม่มารวมตัวกันที่ห้าง สตาร์คอร์ต เพื่อที่จะหาช่วยเมืองนี้เอาไว้ จากพวกรัสเซียที่รุกราน แอลจึงดึงชิ้นส่วนของ mind Flayer ออกมาจากขาของตัวเธอเอง และส่วนกลุ่มของเด็กๆ ร่วมมือกันที่จะสู้กับ Mind flayer

หลังจากนั้น แอล ก็สามารถช่วยดึงสติของเจ้าบิลลี่กลับมาได้แล้ว หลังจากนั้นบิลลี่ก็ต้องยอมเสียสละตัวของเขาเองเพื่อที่จะปกป้องทุกๆคน ส่วนฮอปเปอร์ และ จอยซ์ นั้นมีหน้าที่ในการคอยปิดเครื่องเปิดประตูมิติ “เอาอีกแล้วไงเรื่องยากอีกแล้ว” นั้นแหละ อย่างที่บอกมันไม่ได้ง่ายขนาดน๊านนนน!!

เพราะเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่เปลี่ยนจากหน้าไปมือไปหลังมือ ทำให้ ฮอปเปอร์นั้น ต้องติดอยู่ในห้องเครื่อง ส่วนจอยนั้นต้องตัดสินใจที่จะระเบิดเครื่องทิ้งไป ทั้งๆที่ฮอปเปอร์ยังคงติดอยู่ในนั้น

และต่อมาหลังจาก 3 เดือนที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น Star คอร์ดก็ได้ถูกทำลายลงอย่างหมดสิ้น ทุกคนสามารถช่วยเมืองนี้เอาไว้ได้แต่กลับมามีความสงบสุขกันอีกครั้ง ทุกคนนั้นจึงต้องแยกย้ายกันไปเติบโต แอลนั้นได้ย้ายที่อยู่ไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย แต่อย่าพึ่งเซงไป เพราะว่าเรื่องนั้นยังไม่จบ ในฉากสุดท้ายเราจะเห็นภาพของฝ่ายรัสเซียที่มีเดโมกอร์กอนไว้ครอบครอง และ ฮอปเปอร์นั้นยังไม่ตาย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *